15 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือ เวชสำอาง (1)

07:46

วันนี้เราก็จะมาแบบมีความรู้ มีสาระอีกก็แล้วกัน ช่วงนี้ ยุ่งนิดนึง ว่างก็ตอนเย็นๆ ไม่มีอารมณ์จะมานั่งถ่ายรูป ทำฮาวทูอะไรแบบนี้แล้ว
วันนี้ก็เลยจะพูดถึงสิ่งที่พวกเครื่องสำอาง เวชสำอาง ที่จะเอาศัพท์เทคนิคมาอ้างบนเครื่องสำอาง ความจริงแล้วมันเป็นตามนั้นรึเปล่า??

**สิ่งที่เราจะพูดต่อไปนี้เป็นสิ่งเราได้เรียนๆมา แล้วก็อ่านๆมาจากหนังสือ Don't go to the cosmetics counter without me** คือเราว่าไม่จำเป็นต้องไปซื้อหนังสือหรอก ไปอ่านๆจาก cosmeticscop.com ก็ได้ค่ะ จะรมแบบรีวิวเครื่องสำอางเยอะมากกกกกกกกกกกกก เกือบทุกแบรนด์เลยว่าได้

1.Hypoallergenic or Ophthalmologist-Tested
Hypoallergenic จะแปลประมาณว่า เครื่องสำอางหรือเวชสำอางนี้ จะก่อให้การเกิดอาการแพ้น้อยกว่า หรือน้อยลง ส่วน Ophthalmologist-Tested ผ่านการตรวจสอบโดยจักษุแพทย์ ซึ่งอาจจะหมายความว่า จะก่อให้เกิดอาการระคายทางตาน้อยลง 2 คำนี้จะใช้อ้าง เพื่อที่จะบ่งบอกว่า เครื่องสำอางหรือ เวชสำอางนั้น เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย แต่ในความจริง ไม่ได้แปลว่า จะไม่เกิดอาการแพ้ เพราะว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบ หรือทดสอบอะไรก็แล้วแต่นั้น ยังไม่ได้มีการตรวจสอบที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก แต่กฏหมายก็ไม่ได้ห้ามว่า ใส่ไม่ได้นะ ประมาณนั้น เราอยากให้จำไว้ว่า 2 คำนี้หมายถึงแค่ว่าเกิดอาการแพ้หรือ ระคายเคืองน้อยลงเท่านั้น ไม่ได้ไม่เกิดอาการแพ้เลยทีเดียว

2.Won't clog pores, Noncomedogenic or Nonacnegenic
won't clog pores ก็ตรงตัวเลยค่ะ แปลว่า จะไม่อุดตันรูขุมขน noncomedogenic ก็มีความหมายเหมือนกัน แต่ถ้าเป็น nonacnegenic แปลว่าจะไม่ทำให้เกิดสิว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คำพวกนี้จะเป็นอย่างที่พวกเค้าอ้างจริงๆ เพราะบางครั้งคนส่วนใหญ่ที่ใช้มอยเจอไรเซอร์ ที่อ้างว่า noncomedogenic นั้นอาจจะรูขุมขนไม่อุดตันจริง แต่ดั๊นนน สิวขึ้นเยอะแยะเลย อย่างที่บอกค่ะ ยังไม่มีขั้นตอนการทดสอบที่เป็นทางการ แล้ว ดังนั้นเราจะเลือกproduct ที่มีลักษณะเหมาะกับผิวเราดีกว่า เช่น เป็นคนผิวมัน ก็เลือกใช้แบบ เจล ลิควิด ซีรั่ม หรือโลชั่น ที่มีความเบาบาง เพื่อที่เวลาบำรุงจะได้ซึมผ่านผิวไปเลย ไม่ไปอุดตันรูขุมขน ถ้าใช้ครีมที่มีความเข้มข้นและหนาไป จะทำให้ตกค้างที่รูขุมขนแล้วอุดตัน ก็จะเกิดสิวตามค่ะ

3. Our studies show... เราได้ศึกษาแล้วพบว่า...
จำไว้เลยนะค่ะต่อไปนี้ คำเหล่านี้ มันเป็นการตลาดค่ะ!  ถ้าลองสังเกตดูดีๆ ตามโฆษณาจะชอบพูดว่า เราได้ศึกษามาแล้วจากผู้หญิงที่ทดลองใช้...ทั้งหมด100 คนพบว่า บลาๆๆๆ  สรุปผลออกมาดีหมดเลย แน่นอนมันต้องดีสิค่ะ เค้าจะขายของนี่ค่ะ แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่า 100คนที่ทดสอบนี่เค้าทดสอบยังไง เวลานานแค่ไหน อะไรยังไง เราไม่เคยรู้เลย เรารู้อีกทีมันดีมากกก ต่อไปนี้จำไว้เลย คำเหล่านี้เป็นการตลาด เพื่อที่จะสร้างให้ดูน่าเชื่อ ดูดี และหลอกให้เราไปซื้อนั่นเอง ต่อไปนี้ถ้าเราอยากซื้อของที่เกิดจากการทดสอบให้ลองดูเกี่ยวกับงานวิจัยในพวกสิ่งพิมพ์แบบนิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์อะไรแบบนี้มากกว่า ดูน่าเชื่อถือกว่า แล้วก็มีสถิติจริงๆ

4. Cosmeceuticals are better for skin
cosmeceuticals สร้างขึ้นมาโดยบริษัทเครื่องสำอางที่บอกว่า เครื่องสำอางของเขาไม่ใช่เครื่องสำอางธรรมดาๆ เพราะเครื่องสำอางเขาเตรียมโดยเภสัชกร ซึ่งก็คือ เวชสำอางนั้นเอง เวชสำอางก็คือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของตัวยาอยู่ด้วยนั้นเอง แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าเวชสำอางทุกแบรนด์จะดีเสมอไป เขาอาจจะเอายามาผสมแบบปลวกๆ แล้วก็ไม่ทำให้ยาอยู่อย่างคงตัว เก็บไปนานๆยาแยกชั้นออกมาจากเครื่องสำอางแบบนี้ก็มี ดังนั้นก่อนจะเลือกเวชสำอาง ควรอ่านรีวิวดีๆก่อนที่จะซื้อไปใช้นะค่ะ

5.Dermatologist-Tested or Dermatologist Formulated
เช่นเดิมค่ะ แบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ ไม่ว่าจะดังหรือไม่ดัง มักจะจ้างพวกแพทย์ผิวหนังเพื่อไปทดสอบเครื่องสำอางของเค้าแล้วแต่กำลังของเขาว่าจะจ้างไปเยอะน้อยแค่ไหน ซึ่งก็จะเป็นการศึกษา การทดสอบ บลาๆๆๆ เช่นเดิม ซึ่งผลออกมามักจะเป็นแง่บวกเสมอ (แง่ลบไปไหน - -) เช่นเดิมค่ะ มักจะเป็นคำที่ใช้สำหรับการตลาดเช่นเดิม เราควรไปหาอ่านงานวิจัย หรือ อ่านรีวิวเยอะๆจะดีกว่าค่ะ

เหนื่อยแล้วอ่ะ เขียนเยอะๆไม่มีรูปก็น่าเบื่อเนอะ วันหลังจะต่ออีก 5ข้อล่ะกัน
ได้ยินมาว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด อันนี้แค่ 5ข้อเอง อ่านๆหน่อยละกันน

You Might Also Like

0 comments

Pinterest

Instagram

Subscribe